แมลงก้นกระดก แมลงตด

แมลงก้นกระดก

แมลงก้นกระดก ความยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร อาศัยอยู่ในเขตร้อน มักพบบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น และชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน ทำให้มีผู้ได้รับพิษจากการสัมผัสโดนตัวแมลงชนิดนี้ โดยมันจะปล่อยสารพิษที่เรียกว่า Pederin ออกมาทำลายเยื่อผิวหนังบริเวณที่สัมผัสโดน โยอาการจะยังไม่เกิดทันทีที่สัมผัส แต่จะเริ่มเกิดผื่นและอาการแสบ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมง

แมลงก้นกระดก แมลงตด Paederus fuscipes Curtis.

• ” แมลงก้นกระดก ” หรือ ด้วงปีกสั้น หรือ ด้วงก้นงอน (Rove beetle)
• เป็นด้วงขนาดเล็กประมาณ 7 มม. ส่วนหัวมีสีดำ ปีกน้ำเงินเข้ม และส่วนท้องมีสีส้มมีความสามารถในการเคลื่อนไหว ได้รวดเร็ว
• และมักจะงอส่วนท้องส่ายขึ้นลงเมื่อเกาะ อยู่กับพื้น จึงมักเรียกว่า “ด้วงก้นกระดก” หรือ  แมลงก้นกระดก
• แมลงก้นกระดก ชนิดนี้อาศัยบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น
• แมลงก้นกระดก สามารถปล่อยสารที่เรียกว่า “paederin” ออกมา สารชนิดนี้มีความเป็นพิษทพลายเนื้อเยื่อ
• แมลงก้นกระดก ชอบออกมาเล่นไฟในยามค่ำคืน โดยเฉพาะจะมีมากในฤดูฝน

ผู้ที่สัมผัสลำตัว แมลงก้นกระดก หรือ ตบตีจนน้ำพิษแตก จะมีอาการปวดแสบปวดร้อน คัน ในรายที่เป็นมาก อาจมีไข้ปวดศรีษะ หากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้

แมลงก้นกระดก 

แผลจะมีลักษณะของ แมลงตด จะเป็นทางยาว อาจจะพบเป็นตุ๋มใส (vesicle) อาการเหล่านี้จะหายเองได้ภายใน 7 – 10 วัน ควรทำความสะอาดแผลและปิดปากแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อาจใช้ยาสมานแผลพวกยาแก้แพ้ได้ เบื้องต้นหลังจากทราบว่าสัมผัสด้วงชนิดนี้ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที หากอาการไม่ดีขึ้นให้พบแพทย์

ด้วงก้นกระดก หรือ แมลงก้นกระดก มีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ ( Complete metamorphosis )

โดยมีการเจริญเติบโตแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย

ระยะไข่ โดยปกติแล้วจะพบเห็นการวางไข่ของตัวเมียในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในดินร่วนที่มีวัตถุเน่าเปื่อยปกคลุม ที่ใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งห่างจากผิวน้ำเล็กน้อย ในหนึ่งวันตัวเมียจะสามารถวางไข่ได้หลายฟอง โดยจะใช้เวลาในการฟัก 2 – 5 วัน จึงจะเป็นตัวอ่อน

ตัวอ่อน ลักษณะเป็นแบบ Compodieform ลำตัวค่อนข้างยาว (ส่วนท้องจะยาวกว่าส่วนอื่น) สามารถเห็นหัวได้ชัดเจน หนวดสั้น กรามแข้ง มีขา 6 ขา ส่วนท้องมีแพนหาง 2 เส้น ดำรงชีพด้วยการกินวัตถุเน่าเปื่อย และหนอนเล็กๆ ของแมลงที่อาศัยอยู่ในดิน ใช้เวลา 6 – 10 วัน จึงจะเข้าดักแด้

ดักแด้ ลักษณะใกล้เคียงกับดักแด้ผีเสื้อ แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก สามารถมองเห็นขาที่ติดข้างลำตัวได้ชัดเจน ใช้ระยะเวลา 3 – 4 วัน จึงจะเป็นตัวเต็มวัย

ตัวเต็มวัย ลำตัวยาวแคบ ความยาวของลำตัวประมาณ 6.5 – 7.0 มิลลิเมตร ลำตัวเป็นเงามัน มีสีฉุดฉาด ส่วนหัวมีสีดำ หนวดค่อนข้างยาว มี 12 – 13 ปล้อง

ประโยชน์ นอกจากพิษภัยที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น แมลงก้นกระดก ก็ยังมีประโยชน์ในทางการควบคุมแมลงทางการเกษตร โดย ด้วงก้นกระดก จะช่วยกำจัดไข่หนอนผีเสื้อ เป็นการควบคุมการระบาดของแมลงศัตรูพืช และยังสามารถใช้ประโยชน์ทางด้านนิติเวชกีฏวิทยาได้อีกด้วย